Srikrungbroker
วิชานายหน้าประกันชีวิต ชุดที่1 1) โดยปกติเบี้ยประกันชีวิตที่บริษัทเรียกเก็บจากผู้เอาประกัน ก) สูงขึ้นทุกปี ข) สูงขึ้นในระยะแรก และลดลงในระยะปลาย ค) คงที่ทุกปี ง) แล้วแต่อัตราใหม่ที่บริษัทอาจเปลี่ยนแปลง 2) ผู้เอาประกันภัยสามารถเปลี่ยนแบบกรมธรรม์ประกันภัยจากแบบหนึ่งไปเป็นอีกแบบหนึ่งได้หรือไม่ ก) ไม่ได้ เพราะต้องได้รับอนุมัติจากนายทะเบียนเป็นรายๆ ข) ไม่ได้ เพราะเบี้ยประกันภัยแต่ละแบบไม่เท่ากัน ค) ได้ โดยได้รับความยินยอมจากบริษัท ง) ได้ แต่ต้องให้กรมธรรม์มีมูลค่าตามกรมธรรม 3) จรรยาบรรณข้อใดที่นายหน้าประกันชีวิตควรปฎิบัติมากที่สุดในการขายประกันชีวิต ก) ลดเบี้ยประกันภัย เพื่อช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้จ่ายเบี้ยประกันภัยลดลง ข) ช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ให้ได้ทำประกันชีวิต ค) แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยทำประกันภัย โดยมีจำนวนเงินเอาประกันชีวิตที่สูงมากเพื่อจะได้ผลประโยชน์สูงสุด ง) ให้บริการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และชี้แจงให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงสิทธิและหน้าที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เอา ประกันภัย 4) เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยขาดอายุแล้ว ผู้เอาประกันภัยจะขอต่ออายุสัญญาได้หรือไม่ ก) ได้ ถ้าผู้เอาประกันภัยขอต่ออายุสัญญาภายในระยะเวลากำหนด ข) ได้ตลอดเวลา โดยชำระเบี้ยประกันภัยที่ค้างชำระทั้งหมดรวมดอกเบี้ย ค) ได้ตลอดเวลา โดยชำระเบี้ยประกันภัยที่ค้างชำระทั้งหมด ง) ไม่มีข้อใดถูกต้อง 5) นาย ก ได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทแห่งหนึ่ง มีความต้องการเปลี่ยนแบบกรมธรรม์ใหม่ เพราะเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่า แล้วมาปรึกษาท่านซึ่งเป็นนายหน้าประกันชีวิต ท่านควรให้ข้อเสนอแนะอย่างไร ก) เปลี่ยนไปตามความประสงค์ของนาย ก จึงจะนับได้ว่าเป็นนายหน้าประกันชีวิตที่ให้บริการที่ดี ข) ให้เปลี่ยนแบบกรมธรรม์ให้นาย ก เพราะเป็นความต้องการของนาย ก ไม่ใช่ท่านเป็นผู้แนะนำให้เปลี่ยน ค) ให้เปลี่ยนแบบกรมธรรม์ให้นาย ก เพราะเป็นหน้าที่ของบริษัทมอบหมายให้ชี้ช่องให้บุคคลทำสัญญาประกันชีวิต ง) ไม่ควรให้ผู้เอาประกันภัยสละกรมธรรม์เดิมเพื่อทำสัญญาใหม่ เพราะจะทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียประโยชน์ 6) การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ธรรมดา ถ้าอายุผู้เอาประกันภัยเท่ากับภัยมาตรฐาน และมีจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากัน แบบใดต้องชำระเบี้ยประกันมากสุด ก) สะสมทรัพย์ 20/20 ข) สะสมทรัพย์ 10/10 ค) สะสมทรัพย์ 15/15 ง) เท่ากันทั้ง 3 แบบ 7) นาย ก เป็นนายหน้าประกันชีวิตชี้ช่องให้นาย ข ซึ่งเป็นเพื่อนสนิททำประกันชีวิต ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิท นาย ก ก็มิได้ลดค่าบำเหน็จให้นาย ข แต่นาย ก ได้นำเงินบำเหน็จดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว ท่านคิดว่านาย ก ทำผิดจรรยาบรรณหรือไม่ ก) ไม่ผิด เพราะไม่ได้ลดค่าบำเหน็จเพื่อจูงใจให้ทำประกันชีวิต ข) ผิด เพราะไม่ได้ทำให้นาย ข เสียประโยชน์ ค) ผิด เพราะนาย ก ลดค่าบำเหน็จให้นาย ข นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่นาย ข ยังเป็นการช่วยเพื่อนอีกด้วย ง) ผิด เพราะอาจทำให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัย 8) ข้อใดเป็นประโยชน์ของการประกันชีวิตที่มีต่อครอบครัว ก) เพื่อการศึกษาของบุตร ข) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของคู่ชีวิตที่เป็นหม้าย ค) เพื่อเป็นรายได้ในยามเดือดร้อน ง) ถูกทุกข้อ 9) ในจำนวนเงินเอาประกันภัยแบบประกันชีวิตที่เท่ากัน อัตราเบี้ยประกันภัยจะเพิ่มขึ้นตามอายุของผู้เอาประกันภัย แต่มีปัจจัยในการพิจารณารับประกันชีวิตบางอย่างที่อาจทำให้เบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นได้ ก) ประวัติการศึกษา ข) ส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย ค) ฐานะการเงิน ง) ประวัติสุขภาพ 10) ตารางมรณะไทยที่บริษัทใช้ในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยมาจาก ก) อัตรามรณะของผู้เอาประกันชีวิตที่แยกตามสาเหตุการเสียชีวิต ข) อัตรามรณะของประชากรแยกตามอายุต่างๆ ค) อัตรามรณะของผู้เอาประกันชีวิตที่แยกตามเพศ และอายุ ง) อัตรามรณะของผู้เอาประกันชีวิตที่แยกตามอาชีพ 11) คุณสมบัติของการเป็นนายหน้าประกันชีวิตข้อหนึ่งบอกว่า นายหน้าประกันชีวิตต้องมีความซื่อสัตย์ จริงใจต่อผู้เอาประกันภัยและเพื่อนร่วมอาชีพ ข้อใดต่อไปนี้ที่จะแสดงให้เห็นว่า นายหน้าประกันชีวิตมีความจริงใจในการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย แต่ประพฤติผิดจรรยาบรรณและศีลธรรมของผู้ประกอบอาชีพนายหน้าประกันชีวิต ก) ผู้เอาประกันภัยยังไม่มีเงินชำระเบี้ยประกันภัยงวดถัดไป จึงเสนอให้ความช่วยเหลือโดยการพาผู้เอาประกันภัยไปกู้เงินจากบริษัท เพื่อนำมาชำระเบี้ยประกันภัย ข) ไปบริการเก็บเบี้ยประกันภัยทุกงวดอย่างสม่ำเสมอ และคอยให้ความช่วยเหลือในการติดต่อกับบริษัทแทนผู้เอาประกันภัย ค) เป็นนายหน้าประกันชีวิตที่มีอุดมการณ์ว่าต้องสร้างสรรค์สังคม และหาวิถีทางที่จะให้กลไกของการประกันชีวิตได้รับใช้สังคมมากที่สุด โดยการชี้ช่องให้ครอบครัวที่มีรายได้น้อยทำประกันชีวิตที่มีแต่ความคุ้มครองการเสียชีวิตเท่านั้นเนื่องจากเบี้ยประกันภัยต่ำ ง) ขอเอาประกันชีวิตมีภาระต้องใช้เงินมากในขณะที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยงวดแรกจึงให้ความช่วยเหลือ โดยการลดเงินค่าบำเหน็จจากเบี้ยประกันชีวิตให้ครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นการจูงใจให้ทำประกันชีวิต 12) ข้อใดต่อไปนี้คือความหมายของการเสี่ยงภัย ในแง่ของการประกันชีวิต ก) ความเป็นไปได้ที่จะประสบอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต ข) โอกาสที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บ ค) ความเป็นไปได้ที่ทุกคนจะประสบกับการสูญเสียรายได้ในอนาคต ง) ถูกทั้งข้อ ก และ ข 13) ความหมายของการประกันชีวิต คือข้อใด ก) วิธีการร่วมป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ข) วิธีการร่วมกันเฉลี่ยภัยอันเนื่องจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพ ค) วิธีการขจัดภัยที่เกิดขึ้นในอนาคต ง) วิธีการร่วมกันเฉลี่ยภัยอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ 14) นาย ก เป็นนายหน้าประกันชีวิตได้จัดการให้นาย ข เพื่อนของตนทำประกันชีวิต และในใบคำขอเอาประกันชีวิต นาย ข กรอกข้อมูลว่ามีบิดาป่วยเป็นโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น นาย ก รู้ดีว่าเพื่อนผู้นี้ต้องดูแลบิดาทุกวันอย่างใกล้ชิด และเห็นว่าเพื่อนๆ ไม่รู้เรื่องการป่วยของบิดานาย ข จึงเป็นห่วงเพื่อนๆ คนอื่น ซึ่งรับประทานอาหารกับนาย ข ทุกวัน และกลัวว่าเพื่อนอาจมีโอกาสรับเชื้อโรคจากนาย ข จึงบอกกล่าวแก่เพื่อนๆ การกระทำของนาย ก ผิดหรือถูกตามจรรยาบรรณอาชีพนายหน้าประกันชีวิตเพราะอะไร ก) ผิด เพราะว่าเปิดเผยความลับของผู้เอาประกันภัยต่อบุคคลภายนอก ข) ถูก เพราะว่ามีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อเพื่อนร่วมอาชีพ ค) ผิด เพราะว่ามีพฤติกรรมที่ตั้งใจยั่วยุให้เกิดความรังเกียจเพื่อน ง) ผิด จรรยาบรรณอาชีพนายหน้าประกันชีวิตตามเหตุผลที่กล่าวถึงในข้อ ก และข้อ ค รวมกัน 15) นาย ก ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 15/10 จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด 3 เดือน กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2530 ชำระเบี้ยประกันภัยถึงปีที่ 3 งวด 3 และนาย ก มาขอเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2534 นาย ก จะได้รับเงินเท่าไร (มูลค่าเวนคืนเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 3 = 96 บาท/จำนวนเงินเอา ประกันภัย 1,000 บาท มูลค่าเวนคืนเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 4 = 157 บาท/จำนวนเงินเอาประกัน 1,000 บาท) ก) 9,600 บาท ข) 15,700 บาท ค) 14,175 บาท ง) 11,125 บาท 16) การประกันชีวิตแบบใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการประกันวินาศภัยมากที่สุด ก) แบบสะสมทรัพย์ ข) แบบชั่วระยะเวลา ค) แบบตลอดชีพ ง) แบบบำนาญ 17) การประกันชีวิตชนิดมีเงินปันผล และชนิดไม่มีเงินปันผล มีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ ก) ระยะเวลาของการชำระเบี้ยแตกต่างกัน ข) ระยะเวลาคุ้มครองแตกต่างกัน ค) จำนวนเงินเอาประกันภัยแตกต่างกัน ง) อัตราเบี้ยประกันภัยแตกต่างกัน 18) ในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยต้องการกู้เงินจากบริษัท ผู้เอาประกันภัยสามารถใช้สิทธิในการกู้เงินจากบริษัทเมื่อ ก) ยื่นความจำนงต่อบริษัทได้ทุกเวลา ข) ผู้รับประโยชน์ใช้สิทธิในการกู้เงินจากบริษัท ค) กรมธรรม์มีมูลค่าเวนคืนเงินสด โดยกู้เงินได้ไม่เกินจำนวนเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ขณะนั้น ง) บริษัทยินยอม 19) ผู้รับประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยรายหนึ่งได้ไปติดต่อขอรับเงินกรณีผู้เอาประกันภัยถึงแก่กรรม ปรากฏว่าบริษัทแจ้งว่ากรมธรรม์สิ้นสุดระยะเวลาขยายไปแล้ว 3 เดือน บริษัทไม่ต้องจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ หมายความว่า ก) ผู้เอาประกันภัยได้เวนคืนกรมธรรม์ขอรับเงินสดคืนไปเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ข) ผู้เอาประกันภัยได้เปลี่ยนกรมธรรม์เป็นแบบใช้เงินสำเร็จและสิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครองไปแล้ว 3 เดือน ค) ผู้เอาประกันภัยได้เปลี่ยนกรมธรรม์เป็นแบบขยายเวลา และสิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครองไปแล้ว 3 เดือน ง) ผู้เอาประกันภัยขาดชำระเบี้ยประกันภัยเกินระยะเวลาผ่อนผันไปแล้ว 3 เดือน 20) การประกันชีวิตแบบตลอดชีพชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี ผู้เอาประกันภัยขอเวนคืนกรมธรรม์เพื่อขอรับเงินสดได้หรือไม่ ก) ได้ ถ้าได้ชำระเบี้ยประกันภัย และมีมูลค่าเงินสด ข) ได้ เพราะเบี้ยประกันชีวิตสูง ค) ไม่ได้ ง) ไม่ได้ เพราะเบี้ยประกันชีวิตต่ำ ไม่มีส่วนของการออมทรัพย์ ชื่อของผู้เข้าสอบ หัวข้อวิชาสอบ เลือกหัวข้อวิชาที่ต้องการทำแบบทดสอบ 1.วิชานายหน้าประกันชีวิต ชุดที่1 2.วิชานายหน้าประกันชีวิต ชุดที่2 3.วิชานายหน้าประกันชีวิต ชุดที่3 4.วิชานายหน้าประกันชีวิต ชุดที่4 5.วิชาจรรยาบรรณนายหน้าวินาศภัย ชุดที่1 6.วิชาจรรยาบรรณนายหน้าวินาศภัย ชุดที่2 7.วิชาจรรยาบรรณนายหน้าวินาศภัย ชุดที่3 8.วิชากฏหมายแพ่งและพาณิชย์ ชุดที่1 9.วิชากฏหมายแพ่งและพาณิชย์ ชุดที่2 10.วิชาหลักการประกันชีวิต ชุดที่1 11.วิชาหลักการประกันชีวิต ชุดที่2 12.วิชาพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ.2535
1) โดยปกติเบี้ยประกันชีวิตที่บริษัทเรียกเก็บจากผู้เอาประกัน ก) สูงขึ้นทุกปี ข) สูงขึ้นในระยะแรก และลดลงในระยะปลาย ค) คงที่ทุกปี ง) แล้วแต่อัตราใหม่ที่บริษัทอาจเปลี่ยนแปลง 2) ผู้เอาประกันภัยสามารถเปลี่ยนแบบกรมธรรม์ประกันภัยจากแบบหนึ่งไปเป็นอีกแบบหนึ่งได้หรือไม่ ก) ไม่ได้ เพราะต้องได้รับอนุมัติจากนายทะเบียนเป็นรายๆ ข) ไม่ได้ เพราะเบี้ยประกันภัยแต่ละแบบไม่เท่ากัน ค) ได้ โดยได้รับความยินยอมจากบริษัท ง) ได้ แต่ต้องให้กรมธรรม์มีมูลค่าตามกรมธรรม 3) จรรยาบรรณข้อใดที่นายหน้าประกันชีวิตควรปฎิบัติมากที่สุดในการขายประกันชีวิต ก) ลดเบี้ยประกันภัย เพื่อช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้จ่ายเบี้ยประกันภัยลดลง ข) ช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ให้ได้ทำประกันชีวิต ค) แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยทำประกันภัย โดยมีจำนวนเงินเอาประกันชีวิตที่สูงมากเพื่อจะได้ผลประโยชน์สูงสุด ง) ให้บริการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และชี้แจงให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงสิทธิและหน้าที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เอา ประกันภัย 4) เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยขาดอายุแล้ว ผู้เอาประกันภัยจะขอต่ออายุสัญญาได้หรือไม่ ก) ได้ ถ้าผู้เอาประกันภัยขอต่ออายุสัญญาภายในระยะเวลากำหนด ข) ได้ตลอดเวลา โดยชำระเบี้ยประกันภัยที่ค้างชำระทั้งหมดรวมดอกเบี้ย ค) ได้ตลอดเวลา โดยชำระเบี้ยประกันภัยที่ค้างชำระทั้งหมด ง) ไม่มีข้อใดถูกต้อง 5) นาย ก ได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทแห่งหนึ่ง มีความต้องการเปลี่ยนแบบกรมธรรม์ใหม่ เพราะเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่า แล้วมาปรึกษาท่านซึ่งเป็นนายหน้าประกันชีวิต ท่านควรให้ข้อเสนอแนะอย่างไร ก) เปลี่ยนไปตามความประสงค์ของนาย ก จึงจะนับได้ว่าเป็นนายหน้าประกันชีวิตที่ให้บริการที่ดี ข) ให้เปลี่ยนแบบกรมธรรม์ให้นาย ก เพราะเป็นความต้องการของนาย ก ไม่ใช่ท่านเป็นผู้แนะนำให้เปลี่ยน ค) ให้เปลี่ยนแบบกรมธรรม์ให้นาย ก เพราะเป็นหน้าที่ของบริษัทมอบหมายให้ชี้ช่องให้บุคคลทำสัญญาประกันชีวิต ง) ไม่ควรให้ผู้เอาประกันภัยสละกรมธรรม์เดิมเพื่อทำสัญญาใหม่ เพราะจะทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียประโยชน์ 6) การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ธรรมดา ถ้าอายุผู้เอาประกันภัยเท่ากับภัยมาตรฐาน และมีจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากัน แบบใดต้องชำระเบี้ยประกันมากสุด ก) สะสมทรัพย์ 20/20 ข) สะสมทรัพย์ 10/10 ค) สะสมทรัพย์ 15/15 ง) เท่ากันทั้ง 3 แบบ 7) นาย ก เป็นนายหน้าประกันชีวิตชี้ช่องให้นาย ข ซึ่งเป็นเพื่อนสนิททำประกันชีวิต ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิท นาย ก ก็มิได้ลดค่าบำเหน็จให้นาย ข แต่นาย ก ได้นำเงินบำเหน็จดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว ท่านคิดว่านาย ก ทำผิดจรรยาบรรณหรือไม่ ก) ไม่ผิด เพราะไม่ได้ลดค่าบำเหน็จเพื่อจูงใจให้ทำประกันชีวิต ข) ผิด เพราะไม่ได้ทำให้นาย ข เสียประโยชน์ ค) ผิด เพราะนาย ก ลดค่าบำเหน็จให้นาย ข นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่นาย ข ยังเป็นการช่วยเพื่อนอีกด้วย ง) ผิด เพราะอาจทำให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัย 8) ข้อใดเป็นประโยชน์ของการประกันชีวิตที่มีต่อครอบครัว ก) เพื่อการศึกษาของบุตร ข) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของคู่ชีวิตที่เป็นหม้าย ค) เพื่อเป็นรายได้ในยามเดือดร้อน ง) ถูกทุกข้อ 9) ในจำนวนเงินเอาประกันภัยแบบประกันชีวิตที่เท่ากัน อัตราเบี้ยประกันภัยจะเพิ่มขึ้นตามอายุของผู้เอาประกันภัย แต่มีปัจจัยในการพิจารณารับประกันชีวิตบางอย่างที่อาจทำให้เบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นได้ ก) ประวัติการศึกษา ข) ส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย ค) ฐานะการเงิน ง) ประวัติสุขภาพ 10) ตารางมรณะไทยที่บริษัทใช้ในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยมาจาก ก) อัตรามรณะของผู้เอาประกันชีวิตที่แยกตามสาเหตุการเสียชีวิต ข) อัตรามรณะของประชากรแยกตามอายุต่างๆ ค) อัตรามรณะของผู้เอาประกันชีวิตที่แยกตามเพศ และอายุ ง) อัตรามรณะของผู้เอาประกันชีวิตที่แยกตามอาชีพ 11) คุณสมบัติของการเป็นนายหน้าประกันชีวิตข้อหนึ่งบอกว่า นายหน้าประกันชีวิตต้องมีความซื่อสัตย์ จริงใจต่อผู้เอาประกันภัยและเพื่อนร่วมอาชีพ ข้อใดต่อไปนี้ที่จะแสดงให้เห็นว่า นายหน้าประกันชีวิตมีความจริงใจในการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย แต่ประพฤติผิดจรรยาบรรณและศีลธรรมของผู้ประกอบอาชีพนายหน้าประกันชีวิต ก) ผู้เอาประกันภัยยังไม่มีเงินชำระเบี้ยประกันภัยงวดถัดไป จึงเสนอให้ความช่วยเหลือโดยการพาผู้เอาประกันภัยไปกู้เงินจากบริษัท เพื่อนำมาชำระเบี้ยประกันภัย ข) ไปบริการเก็บเบี้ยประกันภัยทุกงวดอย่างสม่ำเสมอ และคอยให้ความช่วยเหลือในการติดต่อกับบริษัทแทนผู้เอาประกันภัย ค) เป็นนายหน้าประกันชีวิตที่มีอุดมการณ์ว่าต้องสร้างสรรค์สังคม และหาวิถีทางที่จะให้กลไกของการประกันชีวิตได้รับใช้สังคมมากที่สุด โดยการชี้ช่องให้ครอบครัวที่มีรายได้น้อยทำประกันชีวิตที่มีแต่ความคุ้มครองการเสียชีวิตเท่านั้นเนื่องจากเบี้ยประกันภัยต่ำ ง) ขอเอาประกันชีวิตมีภาระต้องใช้เงินมากในขณะที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยงวดแรกจึงให้ความช่วยเหลือ โดยการลดเงินค่าบำเหน็จจากเบี้ยประกันชีวิตให้ครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นการจูงใจให้ทำประกันชีวิต 12) ข้อใดต่อไปนี้คือความหมายของการเสี่ยงภัย ในแง่ของการประกันชีวิต ก) ความเป็นไปได้ที่จะประสบอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต ข) โอกาสที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บ ค) ความเป็นไปได้ที่ทุกคนจะประสบกับการสูญเสียรายได้ในอนาคต ง) ถูกทั้งข้อ ก และ ข 13) ความหมายของการประกันชีวิต คือข้อใด ก) วิธีการร่วมป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ข) วิธีการร่วมกันเฉลี่ยภัยอันเนื่องจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพ ค) วิธีการขจัดภัยที่เกิดขึ้นในอนาคต ง) วิธีการร่วมกันเฉลี่ยภัยอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ 14) นาย ก เป็นนายหน้าประกันชีวิตได้จัดการให้นาย ข เพื่อนของตนทำประกันชีวิต และในใบคำขอเอาประกันชีวิต นาย ข กรอกข้อมูลว่ามีบิดาป่วยเป็นโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น นาย ก รู้ดีว่าเพื่อนผู้นี้ต้องดูแลบิดาทุกวันอย่างใกล้ชิด และเห็นว่าเพื่อนๆ ไม่รู้เรื่องการป่วยของบิดานาย ข จึงเป็นห่วงเพื่อนๆ คนอื่น ซึ่งรับประทานอาหารกับนาย ข ทุกวัน และกลัวว่าเพื่อนอาจมีโอกาสรับเชื้อโรคจากนาย ข จึงบอกกล่าวแก่เพื่อนๆ การกระทำของนาย ก ผิดหรือถูกตามจรรยาบรรณอาชีพนายหน้าประกันชีวิตเพราะอะไร ก) ผิด เพราะว่าเปิดเผยความลับของผู้เอาประกันภัยต่อบุคคลภายนอก ข) ถูก เพราะว่ามีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อเพื่อนร่วมอาชีพ ค) ผิด เพราะว่ามีพฤติกรรมที่ตั้งใจยั่วยุให้เกิดความรังเกียจเพื่อน ง) ผิด จรรยาบรรณอาชีพนายหน้าประกันชีวิตตามเหตุผลที่กล่าวถึงในข้อ ก และข้อ ค รวมกัน 15) นาย ก ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 15/10 จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด 3 เดือน กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2530 ชำระเบี้ยประกันภัยถึงปีที่ 3 งวด 3 และนาย ก มาขอเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2534 นาย ก จะได้รับเงินเท่าไร (มูลค่าเวนคืนเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 3 = 96 บาท/จำนวนเงินเอา ประกันภัย 1,000 บาท มูลค่าเวนคืนเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 4 = 157 บาท/จำนวนเงินเอาประกัน 1,000 บาท) ก) 9,600 บาท ข) 15,700 บาท ค) 14,175 บาท ง) 11,125 บาท 16) การประกันชีวิตแบบใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการประกันวินาศภัยมากที่สุด ก) แบบสะสมทรัพย์ ข) แบบชั่วระยะเวลา ค) แบบตลอดชีพ ง) แบบบำนาญ 17) การประกันชีวิตชนิดมีเงินปันผล และชนิดไม่มีเงินปันผล มีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ ก) ระยะเวลาของการชำระเบี้ยแตกต่างกัน ข) ระยะเวลาคุ้มครองแตกต่างกัน ค) จำนวนเงินเอาประกันภัยแตกต่างกัน ง) อัตราเบี้ยประกันภัยแตกต่างกัน 18) ในขณะที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยต้องการกู้เงินจากบริษัท ผู้เอาประกันภัยสามารถใช้สิทธิในการกู้เงินจากบริษัทเมื่อ ก) ยื่นความจำนงต่อบริษัทได้ทุกเวลา ข) ผู้รับประโยชน์ใช้สิทธิในการกู้เงินจากบริษัท ค) กรมธรรม์มีมูลค่าเวนคืนเงินสด โดยกู้เงินได้ไม่เกินจำนวนเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ขณะนั้น ง) บริษัทยินยอม 19) ผู้รับประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยรายหนึ่งได้ไปติดต่อขอรับเงินกรณีผู้เอาประกันภัยถึงแก่กรรม ปรากฏว่าบริษัทแจ้งว่ากรมธรรม์สิ้นสุดระยะเวลาขยายไปแล้ว 3 เดือน บริษัทไม่ต้องจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ หมายความว่า ก) ผู้เอาประกันภัยได้เวนคืนกรมธรรม์ขอรับเงินสดคืนไปเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ข) ผู้เอาประกันภัยได้เปลี่ยนกรมธรรม์เป็นแบบใช้เงินสำเร็จและสิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครองไปแล้ว 3 เดือน ค) ผู้เอาประกันภัยได้เปลี่ยนกรมธรรม์เป็นแบบขยายเวลา และสิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครองไปแล้ว 3 เดือน ง) ผู้เอาประกันภัยขาดชำระเบี้ยประกันภัยเกินระยะเวลาผ่อนผันไปแล้ว 3 เดือน 20) การประกันชีวิตแบบตลอดชีพชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี ผู้เอาประกันภัยขอเวนคืนกรมธรรม์เพื่อขอรับเงินสดได้หรือไม่ ก) ได้ ถ้าได้ชำระเบี้ยประกันภัย และมีมูลค่าเงินสด ข) ได้ เพราะเบี้ยประกันชีวิตสูง ค) ไม่ได้ ง) ไม่ได้ เพราะเบี้ยประกันชีวิตต่ำ ไม่มีส่วนของการออมทรัพย์ ชื่อของผู้เข้าสอบ