วิชานายหน้าประกันชีวิต ชุดที่3

1) ในขณะนี้ปัญหาของนายหน้าประกันชีวิตที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือการที่เก็บเบี้ยประกันภัยแล้วไม่ส่งเข้าบริษัท ถ้าท่านเป็นนายหน้าประกันชีวิตที่มีความมุ่งมั่นในอาชีพท่านจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร
ก) ไม่กระทำพฤติกรรมดังกล่าว
ข) มีความซื่อสัตย์ต่อผู้เอาประกันภัย บริษัทและเพื่อนร่วมอาชีพ
ค) พยายามแก้ไขภาพพจน์ ด้วยการชักชวนเพื่อนร่วมอาชีพไม่ให้กระทำพฤติกรรมดังกล่าว
ง) ถูกทุกข้อ

2) นาย ก เป็นนายหน้าประกันชีวิตซึ่งบริการลูกค้าของตนเองดีมาก แต่นาย ก มีนิสัยเจ้าชู้และมีภรรยาหลายคน พฤติกรรมของนาย ก นี้ ผิดจรรยาบรรณและศีลธรรมของนายหน้าประกันชีวิตหรือไม่
ก) ผิด เพราะไม่ได้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมประเพณีอันดีงาม
ข) ไม่ผิด เพราะ นาย ก ยังให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
ค) ไม่ผิด เพราะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวต้องแยกออกจากกัน
ง) ผิด เพราะเมื่อมีพฤติกรรมเช่นนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายมาก อาจเป็นผลก่อให้เกิดการทุจริตในเรื่องเงินได้

3) ในฐานะที่ท่านเป็นนายหน้าประกันชีวิต ท่านควรจะแนะนำผู้เอาประกันภัยอย่างไร
ก) แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยเข้าใจถึงเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่จะได้รับก่อนลงชื่อในใบคำขอทำประกันชีวิต
ข) แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยทำประกันชีวิต โดยมีจำนวนเงินเอาประกันชีวิตที่สูงมากเพื่อจะได้ประโยชน์สูงสุด
ค) แนะนำให้ผู้เอาประกันภัยเข้าใจว่า นายหน้าประกันชีวิตเป็นผู้ต้องรับผิดชอบในการเก็บเบี้ยประกันชีวิตทุกงวด
ง) ถูกทุกข้อ

4) ข้อใดต่อไปนี้ที่บริษัทประกันชีวิตไม่ต้องจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต
ก) ผู้เอาประกันภัยฆ่าตัวตายในปีที่2 นับแต่วันทำสัญญา
ข) ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในระยะเวลารอคอย
ค) ผู้เอาประกันภัยถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตายโดยเจตนา
ง) ถูกทุกข้อ

5) ใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตมีอายุใช้ได้ถึงเมื่อใด สำหรับการออกใบอนุญาตในครั้งแรก
ก) ตลอดชีพ
ข) หนึ่งปีนับจากวันที่ออกใบอนุญาต
ค) สองปีนับจากวันที่ออกใบอนุญาต
ง) สามปีนับจากวันที่ออกใบอนุญาต

6) ท่านคิดว่าข้อใดถูกที่สุด
ก) นายหน้าประกันชีวิตที่ดีจะต้องไม่กล่าวให้ร้ายต่อนายหน้าประกันชีวิตอื่นที่ประกอบอาชีพเดียวกับตน
ข) นายหน้าประกันชีวิตที่ดีจะต้องไม่กล่าวให้ร้ายต่อนายหน้าประกันชีวิตอื่นและบริษัทประกันชีวิต
ค) นายหน้าประกันชีวิตที่ดีจะต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ของการเป็นนายหน้าประกันชีวิตที่ดี
ง) ถูกทุกข้อ

7) ข้อใดต่อไปนี้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องกรอกในใบคำขอเอาประกันชีวิต
ก) อาชีพผู้ขอเอาประกันภัย
ข) ที่อยู่ผู้ขอเอาประกันภัย
ค) อายุของคู่สมรส
ง) สุขภาพของผู้เอาประกันภัย

8) นาย ก ได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งโดยได้แจ้งแก่นายหน้าประกันชีวิตว่าตนเป็นโรคเบาหวาน นายหน้าประกันชีวิตเกรงว่าถ้าแจ้งความจริงให้บริษัททราบแล้วจะทำให้การพิจารณารับประกันภัยของบริษัทฯ ล่าช้าจึงไม่แจ้งแก่บริษัท ในกรณีนี้นายหน้าประกันชีวิตทำถูกหรือไม่
ก) ถูก เนื่องจากเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ขอทำประกันชีวิต
ข) ถูก เนื่องจากนายหน้าต้องการรักษาความลับของผู้เอาประกันภัย
ค) ผิด เนื่องจากนายหน้าไม่เปิดเผยข้อความจริงของนาย ก แก่บริษัทในส่วนที่เป็นสาระสำคัญในการพิจารณารับประกันภัย
ง) ผิด เนื่องจากนายหน้าเสนอขายกรมธรรม์โดยไม่แจ้งเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์

9) กรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีสุขภาพไม่สมบูรณ์บริษัทจะคำนวณเบี้ยประกันภัยอย่างไร
ก) เพิ่มตามความเสี่ยงของอัตรามรณะที่เพิ่มขึ้น
ข) เพิ่มในอัตราถดถอย
ค) เพิ่มในอัตราคงที่
ง) เพิ่มในอัตราก้าวหน้า

10) ใบคำขอเอาประกันชีวิตสำคัญอย่างไร
ก) เพื่อเป็นหลักฐานในการแสดงเจตนาทำประกันชีวิต
ข) เพื่อเป็นหลักฐานในการเรียกค่าเสียหาย
ค) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเสียภาษี
ง) ผิดทุกข้อ

11) บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดล่วงหน้าแก่บุคคลใดเป็นค่านายหน้าหรือค่าตอบแทนสำหรับงานที่จะทำให้แก่บริษัทได้หรือไม่
ก) ไม่ได้ เพราะพระราชบัญญัติประกันชีวิตห้ามไว้
ข) ไม่ได้ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน
ค) ได้ เพราะพระราชบัญญัติประกันชีวิตไม่ได้ห้ามไว้
ง) ไม่ได้ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

12) นายแสง อายุ 25 ปี สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศกัมพูชา ได้สอบความรู้เกี่ยวกับประกันชีวิตได้แล้ว จึงมายื่นคำขอรับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิต ดังนี้ นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตให้นายแสง หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก) ได้ เพราะขอรับใบอนุญาตมีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะแล้ว
ข) ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีภูมิลำเนาในประเทศไทย
ค) ไม่ได้ เนื่องจากผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีภูมิลำเนาในประเทศไทย
ง) ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข

13) นายขาว นายหน้าประกันชีวิตถูกฟ้องคดีฐานปล้นทรัพย์ ศาลยกฟ้อง นายขาว ขาดคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตหรือไม่
ก) ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากถูกฟ้องคดีฐานปล้นทรัพย์
ข) ไม่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีดังกล่าว
ค) ไม่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจาก พรบ.ประกันชีวิต พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พรบ.ประกันชีวิต(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 ไม่ได้บัญญัติไว้
ง) ถูกทั้ง 3 ข้อ

14) นายใจ ได้รับคำสั่งนายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2541 นายใจมีความประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว จะต้องอุทธรณ์ภายในวันที่เท่าใด
ก) 16 กันยายน 2541
ข) 1 ตุลาคม 2541
ค) 31 ตุลาคม 2541
ง) 30 พฤศจิกายน 2541

15) รายการในใบเสร็จรับเงินตามกฎหมาย อาจไม่มีรายการใด ต่อไปนี้ได้
ก) ชื่อบริษัท
ข) ชื่อผู้ชำระเบี้ยประกันภัย
ค) ชื่อผู้เอาประกันภัย
ง) ไม่มีข้อถูก

16) นาย ก ทำสัญญาประกันชีวิตโดยให้นาง ข ภริยา เป็นผู้รับประโยชน์และมอบกรมธรรม์ให้นาง ข. ไว้ ต่อมา นาง ข. ทะเลาะกับนาย ก เนื่องจากรู้ว่านาย ก ไปมีภริยาน้อย และกำลังจะเปลี่ยนให้ลูกของภริยาน้อยเป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์แทน นาง ข.จึงส่งจดหมายแจ้งบริษัทประกันชีวิต ห้ามบริษัทรับแก้ไขเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ ต่อมาภายหลังนาย ก. มาติดต่อบริษัทและแจ้งให้ด.ช.แดง ซึ่งเป็นบุตรตนกับภริยาน้อยเป็นผู้รับประโยชน์แทน บริษัทเห็นว่า ด.ช.แดง เป็นทายาทนาย ก. เป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงออกบันทึกสลักหลังให้ นาย ก.ไว้ หลังจากนั้น 1 ปี นาย ก.เสียชีวิต บริษัทได้จ่ายเงินให้แก่ ด.ช.แดง เป็นการถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่
ก) ถูกต้องแล้ว ถูกต้องแล้ว เพราะนาย ก.เป็นเจ้าของกรมธรรม์ และ ด.ช.แดง เป็นบุตรมีสิทธิเป็นผู้รับประโยชน์สามารถแก้ไขเปลี่ยนเจตนาได้
ข) ถูกต้องแล้ว เพราะได้มีการแจ้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงถูกต้องตามเงื่อนไขสัญญาและบริษัทยินยอมแล้ว
ค) ไม่ถูกต้อง เพราะ นาง ข.มีสิทธิเป็นผู้รับประโยชน์อยู่ก่อน และได้แสดงเจตนาถือเอาประโยชน์แล้ว แม้ว่าเจ้าของกรมธรรม์ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ง) ไม่ถูกต้อง เพราะต้องจ่ายให้ทั้ง นาง ข. และ ด.ช.แดง เพราะทั้งสองต่างก็มีสิทธิเป็นผู้รับประโยชน์ทั้งคู่

17) สัญญาประกันชีวิตเกิดขึ้นเมื่อใด
ก) เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์
ข) บริษัทออกกรมธรรม์ให้
ค) ผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ย
ง) บริษัทตกลงรับประกันภัย แม้มิได้มีลายลักษณ์อักษร

18) ข้อใดคือความหมายของประกันชีวิต
ก) วิธีการที่คนกลุ่มหนึ่งร่วมกันป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ข) วิธีการที่คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเพื่อช่วยกันเฉลี่ยภัยจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพ
ค) วิธีการที่คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันขึ้นเพื่อช่วยกันเฉลี่ยภัยทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ง) วิธีการที่คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเพื่อลดความเสี่ยงภัยที่จะเกิดขึ้น

19) ประโยชน์ของการประกันชีวิต คือ
ก) ช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ข) เป็นหลักประกันให้แก่ครอบครัว
ค) ช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ธุรกิจต้องประสบปัญหาในการดำเนินงาน
ง) ถูกทุกข้อ

20) บริษัทประกันชีวิตใช้วิธีการใดในการกระจายความเสี่ยงภัยจากการรับประกันชีวิต
ก) เรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยเพิ่มขึ้น
ข) รับประกันชีวิตเป็นจำนวนน้อยเพื่อจะได้ลดความเสี่ยงภัยจากการรับประกันชีวิต
ค) รับประกันชีวิตเป็นจำนวนมากเพื่อจะได้เฉลี่ยภัยที่จะเกิดขึ้นจากการรับประกันชีวิต
ง) รับประกันชีวิตเป็นจำนวนน้อยและเก็บเบี้ยประกันภัยสูง


ชื่อของผู้เข้าสอบ



หัวข้อวิชาสอบ